ฤดูฝนที่ไร แม่ๆ กลุ้มใจทุกที บรรดาเชื้อร้าย โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นานา มากันเพียบ อีกหนึ่งมหันตภัยร้ายที่แฝงตัวอยู่ในบ้านนั่นก็คือ เชื้อราหน้าฝน ส่งผลร้ายต่อสุขภาพคือทำให้เกิดโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และอาจเป็นปอดอักเสบได้ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ พ่อแม่ยิ่งต้องระวัง
เชื้อราหน้าฝน ปัญหากวนใจภายในบ้าน
ฝนที่ตกช่วยทำให้ชุ่มฉ่ำ แต่กลับสร้างภัยร้ายอย่างเชื้อรา! ด้วยความชื้นในอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ภายในบ้านมีความชื้นสูงมากขึ้นเช่นกัน บ้านที่อับชื้นก็เป็นที่อยู่อาศัยชั้นดีของเจ้าเชื้อรา ที่พร้อมจะแพร่กระจายภายในบ้าน ยิ่งบ้านไหนที่มีปัญหาน้ำท่วมยิ่งต้องระวัง เพราะน้ำท่วมและน้ำขังที่อยู่ภายนอกบ้าน อาจจะซึมผ่านรูรั่วเล็กๆ เข้ามาภายในบ้าน ก่อให้เกิดเชื้อราได้โดยที่แม่ไม่ทันระวัง
3 ห้องต้องระวังเชื้อรา
1.ห้องน้ำ บริเวณห้องน้ำเป็นส่วนที่มีความชื้นตลอดเวลา แม่ต้องคอยสังเกตให้ดี เพราะเมื่ออาบน้ำคราบไคลจากผิวหนังและคราบสบู่ จะกลายเป็นอาหารให้เชื้อราอิ่มหนำ สิ่งที่ต้องระวังคือ กระเบื้อง ฝ้าเพดาน ผ้าม่านในห้องน้ำ อ่างล้างหน้า หรือแม้แต่แปรงสีฟัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำก็สำคัญ ต้องมีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ซึ่งมีฤทธ์เป็นด่าง ช่วยกำจัดเชื้อราฝังแน่นได้ดี
2.ห้องครัว ขึ้นชื่อว่าห้องครัว คือห้องสำหรับทำอาหาร หลีกเลี่ยงความชื้นได้ยาก ทั้งจากการทำอาหาร และบริเวณที่ล้างจาน ซึ่งเป็นที่อับชื้น จึงต้องทำความสะอาดอยู่บ่อยๆ และเช็ดให้แห้งเสมอ
3.ห้องนอน ในห้องนอนมีพื้นที่ที่เหมาะจะอาศัยอยู่ของเชื้อรา ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ใต้พรม เครื่องนอน และเครื่องปรับอากาศ ในส่วนของเครื่องนอน เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ควรจะซักและตากแดดเป็นประจำ แล้วอย่าลืมล้างแอร์บ่อยๆ ด้วยนะ
มหันตภัยร้ายอันตรายต่อลูก
กลุ่มที่มีโอกาสป่วยจากเชื้อราหน้าฝนคือ ผู้สูงอายุ และเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กอ่อน อาการเบื้องต้นหลังจากที่หายใจเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดการระคายเคือง มีอาการจาม น้ำมูกไหล และมีไข้ เป็นต้น
แต่โรคภัยที่น่าห่วงสำหรับลูกๆ คือ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ และโรคปอดอักเสบ
กำจัดเชื้อราหน้าฝนอย่างไรให้อยู่หมัด
การทำความสะอาดบ้านให้เอี่ยมอ่องอยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบ้านควรจะใส่ใจ แล้วอย่าลืมเปิดหน้าตา ประตู เพื่อให้อากาศถ่ายเทไม่อับชื้น ให้แสงแดดมาช่วยลดความชื้นซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคภายในบ้าน แล้วทำตาม 3 ขั้นตอนด้านล่าง
1. พื้นผิววัสดุที่พบเชื้อราให้ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย เช็ดพื้นผิวไปในทางเดียว แล้วนำกระดาษทิชชูหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ดังกล่าวทิ้งลงในถังขยะที่ปิดมิดชิด
2. ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบลงในน้ำผสมกับสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดซ้ำในจุดที่มีเชื้อราอีกครั้ง
3. ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5–7 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90 เปอร์เซ็นต์ เช็ดทำความสะอาดเพื่อเป็นการทำลายเชื้อในขั้นตอนสุดท้าย
ที่มา : matichon.co.th
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เชื้อรา อากาศร้อน ระวังโรคผิวหนังจากเชื้อราในเด็ก
เคล็ดลับจัดการ “ฝุ่น”…ภัยร้ายตัวจิ๋วรอบตัวลูก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!